วันเสาร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

wellcom A800 ที่ได้ดูมา

a800
สเป็คคร่าวๆ ของ Wellcom A800 ก็
  • CPU: Qualcomm MSM7227 ความเร็ว 600MHz
  • OS: Android 2.1 Eclair
  • ROM/RAM: 512MB NAND Flash/512MB DDR
  • Display: 7” TFT LCD Capacitive Multi-touch enable
  • Display Resolution: 800×480 WVGA 24-bit color
  • Cellular Network: GSM 850/900/1800/1900, UMTS 850/1900/2100
  • Battery: 3240mAh
  • อื่นๆ: Micro SD slot, SIM slot, built-in speaker/mic
ส่วนสเป็คโดยละเอียด รบกวนตามไปดูที่เว็บไซต์ของ Wellcom Mobile เอาครับ
ความรู้สึกแรกสัมผัส
แอบได้ยินมาว่า Wellcom A800 นั้น OEM มาจากประเทศจีน และผมเองก็มีประสบการณ์ในการใช้ Android Tablet จากประเทศจีนอยู่บ้าง เช่น iPed ที่ผมได้รีวิวไปแล้ว หรือ aPad ที่แอบไปสัมผัสมา (และอาจจะได้มีโอกาสรีวิวในเร็ววันนี้) บอกตรงๆ ว่า ไม่ได้คาดหวังอะไรกับ OEM จากประเทศจีนมาก แต่ว่าได้ยินกระแสจากผู้ที่ไปสัมผัสของจริงมาจากงานเปิดตัว Wellcome A800 ที่ผ่านมา (ซึ่งด้วยธุระบางประการ ทำให้ผมไม่ได้ไป) เขาว่ากันว่า ทำออกมาได้ดีทีเดียว
พอแกะกล่องออกมา ต้องบอกเลยว่า Wellcom A800 ทำให้ผมนึกถึง iPhone 4 ครับ เพราะตัวเครื่องมีขอบเป็นสแตนเลสรอบด้าน และด้านหลังมีลักษณะเหมือนกระจกพลาสติก … มันคือ iPhone 4 ที่โตแล้วนั่นเอง ฮาฮา … ผมเลยลองเก็บภาพมาฝากซักชุดครับ
Wellcom A800 ด้านหน้า
Wellcom A800 ด้านหลัง
Wellcom A800
รอบๆ ตัวเครื่องก็จะมี
  • ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. (เสียดาย ตัวทดสอบที่ผมได้มา ไม่มีมาให้ เลยไม่ได้ทดสอบชุดหูฟังที่แถมมา)
  • ช่องใส่ SIM Card และ Micro SD card
  • ลำโพงแบบ Stereo อยู่ที่สองฝั่งของตัวเครื่อง
  • ปุ่มเพิ่มและลดระดับเสียง
  • รูไมโครโฟน เห็นมี 2 รู เข้าใจว่าเพื่อใช้ลดเสียงรบกวน และอีกรูนึงคือรูเอาไว้สำหรับ reset เครื่อง ในกรณีที่เครื่องค้างครับ (ใช้มา 2 วันยังไม่มีค้างนะ แต่กันไว้ดีกว่าแก้เนอะ)
  • ช่องเสียบ Mini USB
ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. และ mini USB IMG_0551
IMG_0552 IMG_0553
ด้วยความที่ขนาดของจอแค่ 7” เท่านั้น เลยทำให้มันดูเล็กกะทัดรัดมาก แต่พอผมหยิบขึ้นมา แว่บแรกที่รู้สึกก็คือ “หนัก” เพราะตัวแค่นี้ แต่หนักถึง 410 กรัมเลยทีเดีย (iPad จอ 9.7” หนักแค่ 680 กรัม) แต่ความหนักนี่ก็ทำให้เครื่องดูแน่นๆ ไม่หยอก
ทดสอบการใช้งาน ลองทัช ลองลากโน่น ทำนี่ ถือได้ว่าเนียน และลื่นไหลมาก … ผมไม่ได้คิดไปเองนะครับ พอดีว่าเมื่อวันก่อน (11 ส.ค. 2553) นายฝรั่งที่โรงเรียนนัดเลี้ยงฉลองที่ Implement ซอฟต์แวร์ตัวใหม่ค่อนข้างประสบความสำเร็จ ก็เลยได้ผู้ร่วมทดสอบเยอะแยะไปหมด ทั้งคนไทย และฝรั่ง … Wellcom A800 เรียกเสียงฮือฮาได้พอสมควร เพราะพวกนี้รู้จักแต่ iPad … ผมเลยเอา iPad มาวาง แล้วก็เอา Wellcom A800 มาวางข้างๆ ให้เล่นกันตามสะดวก และได้เสียงตอบรับกลับมาว่า Wellcom A800 นี่ ตอบสนองต่อการทัชได้ดีทีเดียว
ประสบการณ์แอปพลิเคชั่น
Wellcom A800 ตัวที่ผมได้เป็นตัวต้นแบบ (Prototype) เลยมาพร้อมกับ Android 2.1 เพียวๆ ไม่ได้มี app อะไรพิเศษมาให้ครับ แต่มีคีย์บอร์ดไทยมาให้สำหรับใช้กับ Wellcom A800 โดยเฉพาะ ซึ่งมีลักษณะที่ไม่เลวเลย พิมพ์ได้ค่อนข้างสะดวก และมีให้เลือกหลายภาษาตั้งแต่อังกฤษ จีน ไทย เวียดนาม (เลือกปิดไม่ใช้ได้ใน Settings)
คีย์บอร์ดภาษาไทยบน A800
การแสดงผลภาษาไทยของ Wellcom A800 ก็ทำได้เนียนดีและสวยงาม … แน่นอนว่า หน้าจอ 7” ที่ใหญ่กว่าโทรศัพท์มือถือทั่วไป ย่อมทำให้การแสดงผลหน้าเว็บทำได้สมบูรณ์แบบกว่าครับ เปิดเว็บแล้วเห็นอะไรต่อมิอะไรเต็มตากว่า แต่น่าเสียดายที่ไม่มี Flash Player มาด้วย เลยต้องรออัพเดตเป็น Froyo ครับ (ทราบมาว่ามีแผนการอัพเดตแน่ๆ แต่ยังไม่ทราบกำหนดการ)
ภาษาไทยบน A800
A800 เอามาดูการ์ตูนก็แจ่มดีเหมือนกัน
จากประสบการณ์ที่ใช้ iPad มา บอกได้เลยว่า เนียนไม่แพ้กันครับ ทั้งการลากหน้าเว็บขึ้นลง หรือการทำ Pinch Zoom ไม่แตกต่างกันเลยทีเดียว (จะต่างกันก็ขนาดหน้าจอนี่แหละ 9.7” ความละเอียด 1024×768 กับ 7” ความละเอียด 800×480)
อีกเรื่องนึงที่น่าสนใจคือ Wellcom A800 นี่ ถ้าใช้กับ Google Map นี่ก็ได้ GPS Navigator ขนาดใหญ่เหมือนกันนะ เหอๆ แต่เสียตรงที่ Map ต้องใช้ผ่าน Google Map คงไม่รุ่ง เพราะโหลดแผนที่ให้เร็ว ต้องต่อผ่าน 3G ซึ่งขณะนี้ยังไม่ครอบคลุม อาจต้องรอให้โปรแกรมแผนที่ทำออกมารองรับ Android ก่อน
ลองดู YouTube บ้าง ก็พบว่าภาพที่ได้คมชัดทีเดียว เสียตรงที่ลำโพงของ Wellcom นี่ เปิดดังจนสุดแล้ว ก็ยังไม่ค่อยดังมากเท่าไหร่ หากรอบๆ ตัวมีเสียงอื่นดังๆ แทรกเข้ามา ก็ฟังลำบากหน่อย … แต่ไม่เป็นไร ชุดหูฟังช่วยท่านได้
เทียบกับมือถือแล้ว Wellcom A800 ให้ความรู้สึกเต็มตามากกว่า แต่เมื่อเทียบกับ iPad แล้ว ก็อาจดูด้อยลงไปเล็กน้อย ดูภาพข้างล่าง ผมเปรียบเทียบ Samsung Galaxy S (จอ 4”), Wellcom A800 (จอ 7”) และ iPad (จอ 9.7”) ครับ อิอิ … ผมว่าจุดได้เปรียบของ Wellcom A800 คือ มันเป็นจอแบบ WVGA ครับ คือ เป็น Widescreen (16:9) แต่กำเนิด ผิดกับ iPad ที่เป็นแบบมาตรฐาน 4:3
เทียบประสบการณ์การชมเดี่ยว 8 บนอุปกรณ์ต่างๆ
นอกจากนั้น เมื่อ app พื้นๆ เหมือนกับ Android ทั่วไป ผมก็เลยขอดาวน์โหลด app ที่จะใช้ความสามารถของ Wellcom A800 นี่ได้มาดีกว่า นั่นก็คือ Fring ครับ
… หลายคนคงงงว่าเอาไว้ทำอะไร …
คือเจ้า Fring นี่เป็นโปรแกรมคล้ายๆ กับ Skype ครับ ใช้รับส่งข้อความแบบ IM ได้ โทรคุยผ่านทางเครือข่ายได้ (เป็น VoIP นั่นเอง) และที่สำคัญ ยังทำ Video Call ได้ด้วย (Skype เวอร์ชันมือถือ ยังไม่สามารถทำ Video Call ได้) แถมมีเวอร์ชันสำหรับ Android และ iPhone หมายความว่า ไม่ต้องง้อ FaceTime บน iPhone 4 เราก็ทำ Video Call ได้สบายๆ แถมข้าม OS ได้อีกต่างหาก
เจ้า Wellcom A800 ตัวนี้เราสามารถใส่ SIM Card เข้าไปเพื่อใช้งานเป็นโทรศัพท์ และเชื่อมต่อกับ Internet ผ่านทางเครือข่าย EDGE หรือ 3G ก็ได้ (แต่ตัวที่ผมได้มาทดสอบไม่รองรับ 3G บนคลื่น 850MHz เลยอดใช้ true move 3G ต้องไปเอา TOT 3G มาใช้แทน) แถมมีทั้งกล้องด้านหน้าและด้านหลัง เหมาะอย่างยิ่งกับการทำ Video Call ผ่าน Fring อย่างมาก
ในการทดสอบนี้ เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย ผมจึงใช้การต่อกับเน็ต ADSL ของ TOT ความเร็ว 4Mbps ผ่านทาง WiFi แทนครับ
ผลการทดสอบพบว่า
  • ใช้ Wellcom A800 ทำ Video Call กับ Samsung Galaxy S แล้ว ภาพที่มาจากฝั่ง Samsung Galaxy S จะค้าง แต่ทางฝั่ง Samsung Galaxy S จะเห็นภาพจาก Wellcom A800 ไหลลื่นเป็นปกติ
  • ใช้ Wellcom A800 ทำ Video Call กับ HTC Desire แล้ว ภาพที่มาจากฝั่ง HTC Desire ก็ค้างเช่นกัน (การทดสอบกับ HTC Desire นี้ได้ความร่วมมือจาก @Jobzaa ครับ) และเช่นเคย ภาพจากฝั่ง Wellcom A800 ไหลลื่นเป็นปกติ
  • ใช้ Wellcom A800 ทำ Video Call กับ iPhone 3GS ไม่มีปัญหาใดๆ ภาพจากทั้งสองฝั่งไหลลื่นเป็นปกติ (มี delay บ้างเป็นธรรมดา)
เลยไม่แน่ใจว่าที่ภาพค้างเป็นเพราะอะไร แต่เข้าใจว่าอาจมาจากปัญหาของโปรแกรม Fring (?!?) ขอคาใจไว้ตรงนี้ แต่ยังนึกวิธีทดสอบอื่นๆ ไม่ได้ … ตอนนี้กำลังมองๆ ว่า มีใครได้ทดสอบ A800 อีกบ้าง จะได้ทดลองโทรหากันดู
แต่ที่แน่ๆ คือ ประทับใจ Video Call ผ่าน Fring ครับ ภาพและเสียง คมชัดทีเดียว แต่ถ้าคุณใช้ Wellcom ก็คงต้องใส่หูฟังกันหน่อย เพราะว่า ลำโพงของ Wellcom A800 นี่ ค่อนข้างเบาไปนิดครับ
จนถึงตอนนี้ หมดมุกครับ นึกไม่ออกจะลอง app อะไรอีกดี ที่จะเหมาะสมกับการทดสอบ A800 บ้าง เดี๋ยวขอเวลาไปลิสต์รายชื่อมาก่อน แล้วเดี๋ยวจะมารีวิวในเชิงการใช้งานร่วมกับ app ต่างๆ อีกทีครับ (แสดงว่ามีตอนสอง อิอิ)
กล้องถ่ายรูป
เป็นอะไรที่บรรดาสาวก iPad อยากได้แต่ไม่ได้ แถม Wellcom A800 นี่ให้มา 2 ตัวเลย คือ กล้องด้านหน้าความละเอียด 3 แสนพิกเซล และกล้องด้านหลังความละเอียด 3 ล้านพิกเซล สามารถสลับการใช้งานได้ โดยการเลือกที่ Settings ของ app กล้องครับ (ตอนทำ Video Call ด้วย Fring นี่ก็ต้องไปตั้งให้ใช้กล้องด้านหน้าก่อน ไม่งั้นมันจะส่องภาพจากกล้องด้านหลังแทน)
คุณภาพของภาพที่ถ่ายจาก Wellcom A800 ถือว่าเนียนทีเดียว ลองดูภาพตัวอย่างนี่แล้วกัน
T-Rex ซอยแถวบ้าน
ต้นไม้ในสวน
จุดที่น่าสังเกตของกล้องก็คือ ไม่มี tap-to-focus ครับ แต่เป็นระบบ auto focus แทน ซึ่งเวลาถ่ายภาพทุกครั้งมันก็จะต้องปรับโฟกัสทีนึง ใช้เวลาวินาทีเศษๆ ทำให้ความไวชัตเตอร์ช้ามาก ไม่เหมาะกับการถ่ายภาพวัตถุที่เคลื่อนที่ และหากจะถ่ายภาพบุคคล ก็ต้องให้เขายืนนิ่งๆ ซักนิด
โทรศัพท์
แน่นอนครับ ใส่ SIM Card ได้ก็เป็นโทรศัพท์ได้ด้วย ผมก็เลยถือโอกาสทดสอบโทรศัพท์ซะเลยครับ พบว่าแป้นกดหมายเลขใหญ่โตอลังการดี ใช้ได้ อิอิ แต่ไม่ค่อยถูกใจเวลากดรับโทรศัพท์เท่าไหร่ เพราะต้องลากไอ้เครื่องหมายรับโทรศัพท์สีเขียวๆ ไปทางขวามือตั้งไกล … น่าจะทำให้เป็น แตะทีเดียวรับเลยมากกว่า
Dial Pad หน้าจอเวลาโทรศัพท์เข้ามา
หน้าจอเวลากำลังคุยโทรศัพท์อยู่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น