วันเสาร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2554

รวยด้วยไอที : 12 สิ่งที่จะทำให้ประสบผลสัมเร็จในธุรกิจดอทคอม Ecommerce guide

นอกจากปัจจัยที่กล่าวมาแล้วยังมีปัจจัยที่เป็นหัวใจของการทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซอีก 12 ปัจจัยด้วยกันเป็น 12 ซี (12Cs) โดย 6 ซีแรกนั้นคิดขึ้นมาโดย โกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs) และ 6 ซีหลังคิดโดย สตีฟ เคส (Steve Case) บิ้กบอสแห่ง เอโอแอลและไทม์วอร์เนอร์ (AOL and Time Warner) ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

เนื้อหา (Content)
สิ่งที่จำเป็นที่ช่วยสื่อสารให้ลูกค้าเข้าใจและสนใจสินค้าหรือการบริการนั้นก็คือเนื้อหาสาระในเว็บ ปัจจุบันเนื้อหาสาระบนเว็บไม่เพียงแต่จะเปรียบเสมือนเป็นประตูหน้าบ้านเท่านั้น แต่ยังคงเป็นสิ่งที่ช่วยจัดหากำไรเพื่อธุรกิจด้วย
การค้า (Commerce)
การค้าขายซึ่งเป็นหัวใจหลักที่สำคัญของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างมารวมกันอยู่ที่อินเตอร์เนต การค้าขายก็จะต้องมาเป็นอันดับต้นๆ ด้วย กิจการหลายประเภทเริ่มเข้ามาสู่อินเตอร์เนตมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น อาหาร ยา เสื้อผ้า สิ่งของเครื่องใช้ และอื่นๆ อีกมากก็นำมาค้าขายกันผ่านอินเตอร์เนต
การติดต่อสื่อสาร (Communication)
สิ่งที่ช่วยสร้างสัมพันธภาพระหว่างลูกค้าและเจ้าของร้านคือสื่อที่ช่วยในการติดต่อสื่อสารซึ่งนับว่ามีบทบาทสำคัญมากในการทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ไม่ว่าจะเป็น อีเมล์ กระดานข่าว หรือ โทรศัพท์โทรสาร เป็นต้น
ชุมชน (Community)

การสร้างเว็บเพื่อเป็นจุดศูนย์รวมของทุกคนที่สนใจในเรื่องเดียวกันก็จะทำให้เกิดเป็นเสมือนชุมชนหนึ่ง ชุมชนเสมือนจริงนี้จะเริ่มมีการขยายตัวเข้าไปในตลาดใหม่ๆ เพิ่มขึ้นสังเกตได้จากตัวอย่างของสองบริษัทอย่าง เทรดคอมพาสดอทคอม (Tradecompass.com) ซึ่งทำเกี่ยวกับการค้าต่างชาติ และอีกบริษัทหนึ่งคือเควสท์ลิงค์ดอทคอม (Questlink.com) ซึ่งดำเนินการวิจัยเพื่อนักออกแบบชิ้พและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ต่างๆ จึงเสมือนเป็นอีกชุมชนหนึ่งของนักออกแบบชิ้พและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เป็นต้น
ความสะดวก (Convenience)
ในการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์นั้นสิ่งที่ลูกค้าต้องการได้รับมากที่สุดก็คือความสะดวกสบายในการสั่งซื้อ การสร้างหน้าเว็บที่ซับซ้อนมีลูกเล่นมากๆ ก็อาจจะสร้างความรำคาญให้กับลูกค้าได้เหมือนอย่างกรณีของบูดอทคอมที่สร้างหน้าเว็บที่ซับซ้อนและใช้กราฟฟิกมากเกินไปทำให้โหลดช้าจึงทำให้ลูกค้าไม่อยากที่จะเข้ามาซื้อสินค้าอีก นอกเหนือจากการออกแบบหน้าเว็บที่ไม่สลับซับซ้อนแล้ว การขอข้อมูลลูกค้าก็เป็นสิ่งสำคัญ จริงอยู่ว่าลูกค้าอาจจะเกรงว่าการให้ข้อมูลส่วนตัวของตนนั้นอาจจะขัดกับนโยบายความเป็นส่วนตัวได้ เช่น ข้อมูลที่อยู่ ข้อมูลหมายเลขบัตรเครดิต เป็นต้น อย่างไรก็ตามหากลูกค้าที่เข้ามาซื้อสินค้าบ่อยๆ ก็คงไม่อยากที่จะต้องค่อยกรอกข้อมูลส่วนตัวของตนทุกๆ ครั้งที่สั่งซื้อ ฉะนั้นแล้วการที่ให้ทางร้านเก็บข้อมูลของตนจึงเพิ่มความสะดวกในการจับจ่ายซื้อสินค้ามากยิ่งขึ้น เหมือนอย่างความสะดวกของลูกค้าของร้านแอมเมซอนดอทคอมที่มีระบบวันคลิ้กออร์เดอร์ลิ่ง (One-Click Ordering) ที่ไม่ต้องทำให้ลูกค้าต้องมากรอกข้อมูลส่วนตัวทุกครั้งที่สั่งซื้อเพียงกดปุ่มเดียวเท่านั้นก็สามารถทำให้การสังซื้อเป็นไปด้วยความสะดวกขึ้น
การแข่งขัน (Competition)
แรกเริ่มนั้นบริษัทห้างร้านที่ทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซนั้นยังมี จำนววนไม่มากนัก ดังนั้นแต่ละบริษัทที่เริ่มทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซตอนช่วงแรกๆ นั้นจึงทำกันแบบสบายๆ ไม่เหนื่อยมากนักและส่วนใหญ่ก็จะประสบความสำเร็จเพราะยังมีคู่แข่งไม่มากนัก แต่ทว่าในปัจจุบันหลายๆ บริษัทหรือบุคคลก็เริ่มที่จะหันมาทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซกันมากฃึ้นทำให้ต่างฝ่ายต่างต้องงัดกลยุทธออกมาเพื่อให้อยู่รอดในธุรกิจนี้ได้ สังเกตได้จากแต่ก่อนร้านขายซีดีเพลงของเมืองนอกมีอยู่ไม่กี่ร้าน ที่เห็นชัดๆ ก็คือ ซีดีนาวดีคอม (CDNow.com) หรือ ซีดียุโรปดอทคอม (CDEurope.com) แต่ปัจจุบันมีมากมายแม้แต่ร้านค้าปลีกซีดีอย่างทาวเวอร์เร็คคอร์ด (Tower Records) และเวอร์จินเร็คคอร์ด (Virgin Records) ยังต้องเปิดร้านค้าแบบออนไลน์ด้วยเหมือนกัน
การร่วมมือ (Cooporation)
ความร่วมมือเป็นอีกปัจจัยหนึ่งในการดำเนินธุรกิจอีคอมเมิร์ซ จะเห็นได้ว่าในการทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซนั้นจะไม่สามารถดำเนินกิจการแต่เพียงผู้เดียวได้ หากแต่ว่าจะต้องอาศัยจากหลายๆ ฝ่ายด้วยกันไม่ว่าจะเป็น กรมไปรษณีย์ หรือ บริษัทรับส่งสินค้า อย่าง ดีเอชแอล (DHL) และ เฟ็ดเอ็กส์ (FedEx) เพื่อที่จะสามารถตกลงราคาค่าส่งสินค้ากันได้ นอกจากนี้แล้วก็จะเป็นการให้บริการขายสินค้าที่หลากหลายขึ้นเพื่อให้ตรงความความต้องการของลูกค้ามากที่สุด เช่น แอมเมซอนดอทคอมซึ่งแต่ก่อนขายเฉพาะหนังสืออย่างเดียวแต่ต่อมาก็เริ่มขยัยขยายขายสินค้าหลากประเภทมากขึ้น มีการร่วมมือกับบริษัทอื่นๆ อย่างบัตรเครดิตวิซ่า โดยเสนอให้ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปีแต่สามารถซื้อสินค้าได้ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ โดยที่ยังสามารถสะสมคะแคนเพื่อรับของสมนาคุณจากแอมเมซอนได้ด้วย เป็นต้น
ลูกค้าสัมพันธ์ (Customer Relations)
การหาลูกค้าใหม่ๆ อาจจะไม่ยากเท่ากับการที่จะรักษาลูกค้าเดิมๆ ให้ยังคงยืนหยัดอยู่กับร้านของตนได้ สิ่งที่จำเป็นที่จะทำให้ลูกค้าเดิมๆ หวนกลับมาใช้บริการใหม่ก็คือการบริการนั่นเอง จะต้องพึงระลึกเสมอว่าลูกค้าคือเจ้านาย การให้บริการที่เป็นเยี่ยมอาจจะยังไม่เพียงพอ แต่หากจำเป็นต้องคอยติดตามพฤติกรรมของลูกค้าอยู่เสมอๆ เพราะหากปล่อยไว้หรือไม่สนใจลูกค้าหลังจากที่ได้มีการสั่งซื้อครั้งแรก ลูกค้าอาจจะไม่หวนกลับมาใช้บริการอีกได้ การส่งอีเมล์เป็นระยะแจ้งรายการสินค้าใหม่ๆ จะช่วยทำให้ลูกค้าไม่ลืมที่จะกลับมาใช้บริการอีก หรือการให้บริการหลังการขายที่ดี เช่น หากลูกค้าซื้อสินค้าไปแล้วเกิดชำรุดก็สามารถนำมาเปลี่ยนใหม่ได้ หรือ ไม่พอใจในสินค้าสามารถคืนได้และจะได้รับเงินคืนหรือแลกเปลี่ยนให้ใหม่ เป็นต้น
การเชื่อมต่อ (Connectivity)
การเชื่อมต่อในที่นี้หมายถึงการเชื่อมต่ออินเตอร์เนต อุปสรรคอย่างหนึ่งของผู้ใช้อินเตอร์เนตก็คือเรื่องความเร็วในการรับส่งข้อมูล ฉะนั้นการเลือกใช้ผู้ให้บริการเชื่อมโยงอินเตอร์เนตจะต้องเลือกให้ดีว่าบริษัทให้บริการเป็นอย่างไร บางรายอาจจะให้ราคาที่ถูกแต่สายหลุดบ่อยก็อาจจะไม่คุ้ม หรือบางรายมีค่าบริการที่แพงแต่คุณภาพการให้บริการเป็นเลิศซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับตัวผู้ใช้เองว่าจะเลือกแบบไหน
เจ้าของร้านก็ควรที่จะเลือกใช้บริการจากบริษัทที่ไว้วางใจได้ หากคิดที่จะทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซแล้วก็จะไม่สามารถหลีกเลี่ยงค่าบริการตรงนี้ได้ ฉะนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องเลือกเฟ้นบริษัทที่จะมาทำหน้าที่ในการเก็บข้อมูลในเว็บของตนให้ดี หากเราเน้นลูกค้าที่เป็นชาวต่างชาติอย่างอเมริกันหรืออังกฤษ การฝากเว็บไว้ที่แม่ข่ายที่อยู่ในประเทศนั้นๆ อาจจะทำให้ลูกค้าสามารถเข้าเว็บของตนได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ในทางกลับกันหากฝากเว็บไว้ในประเทศไทยแต่ลูกค้าส่วนมากเป็นชาวต่างชาติก็อาจจะทำให้ลูกค้าไม่อยากที่จะเข้ามาในเว็บของตนเพราะใช้เวลาในการโหลดข้อมูลนาน
การทำให้แข็งแกร่งขึ้น (Consolidation)
จากการทำนายของศูนย์วิจัยฟอร์เรสเตอร์ และ ไอดีซี ได้กล่าวไว้ว่าธุรกิจอีคอมเมิร์ซจะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ แต่การเจริญเติบโตนี้จะมาจากการรวมกันระหว่างบริษัทต่างๆ เพื่อช่วยกันทำให้ธุรกิจดำเนินต่อไปอย่างแข็งขัน โดยจะเริ่มมีการรวมกันของบริษัทต่างๆ มากขึ้นในปี พ.ศ. 2547 โดยเหตุที่จะต้องมีการรวมกันระหว่างบริษัทต่างๆ ก็เป็นเพราะว่าต้นทุนในการทำอีคอมเมิร์ซเริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการพยายามหาลูกค้าเพิ่มหรือการดูแลเอาใจใส่ลูกค้าให้ได้ถึง
ตัวอย่างของบริษัทที่มีการร่วมกันคือ "โฮมชาร์คดอทคอม (Homeshark.com)" ซึ่งให้บริการเกี่ยวกับทรัพย์สินต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การขายที่ดิน จัดไฟแนนซ์ จำนองทรัพย์สิน เป็นต้น ซึ่งการบริการดังกล่าวทำให้ลูกค้าสามารถเข้ามาค้นหาที่ดินในสหรัฐอเมริกาที่พวกเขาต้องการจะซื้อ หรือดูสภาพแวดล้อมรอบๆ ที่ดิน ติต่อบริษัทที่รับจัดไฟแนนซ์ ตีราคา หรือว่า การขอจำนองทรัพย์สินเพื่อมาซื้อที่ โดยหากต้องการที่จะจำนองทรัพย์สินก็สามารถกรอกแบบฟอร์มยื่นคำร้องขอจำนองออนไลน์ได้ หรืออาจจะเป็นการขอคำแนะนำเพื่อให้ได้วิธีที่ดีที่สุดของการซื้อที่ เป็นต้น ซึ่งการบริการทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ลำพังบริษัทโฮมชาร์คเพียงแห่งเดียวคงไม่สามารถให้บริการครบวงจรในลักษณะนี้ได้ ดังนั้นจึงมีการร่วมมือจากหลายๆ หน่วยงานเพื่อมาช่วยทำให้บริการดังกล่าวได้รับความนิยมจากลูกค้าได้
นอกเหนือจากตัวอย่างของการร่วมมือกันอย่างโฮมชาร์คดอทคอมแล้วยังมีตัวอย่างจากบริษัทอื่นๆ อีก เช่น กิจการรถยนต์อย่างออโต้เว็บดอทคอม (Autoweb.com) และ กิจการด้านการประกันของโคว้ทดอทคอม (Quote.com)
การรวมเข้าด้วยกัน (Convergence)
ปัจจุบันการซื้อสินค้าไม่เพียงแต่จะสามารถซื้อได้ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ได้เท่านั้น แต่ยังสามารถซื้อขายผ่านอุปกรณ์ไร้สายอย่างมือถือได้ ฉะนั้นการรวมนำเอาเทคโนโลยีการสื่อสารโทรศัพท์มือถือผนวกกับระบบอีคอมเมิร์ซจึงถือว่าเป็นอีกสิ่งหนึ่งเพื่อที่จะช่วยให้เกิดทางเลือกใหม่ๆ แก่ลูกค้าได้
ใจความสำคัญ (Context)
จุดมุ่งหมายที่แท้จริงของเว็บไซต์นั้นก็นับว่าเป็นอีกส่วนสำคัญหนึ่งที่จะสามารถทำให้ผู้คนหรือลูกค้าที่เข้ามาเยี่ยมชมสามารถตัดสินใจได้ถูกว่าเว็บไซต์ที่พวกเขาเข้ามานั้นตรงตามวัตถุประสงค์ของพวกเขาหรือไม่ อย่างเช่นเว็บไซต์วูแมนดอทคอม (Woman.com) จุดประสงค์หลักของทางเว็บไซต์มุ่งเน้นไปที่เรื่องของผู้หญิงโดยเฉพาะ หรืออย่างเว็บไซต์ยะฮู (Yahoo.com) ที่เป็นเว็บท่าที่ใหญ่ที่สุด เป็นจุดศูนย์รวมของผู้ที่ต้องการจะค้นหาข้อมูล เป็นต้น
ทั้ง 12 หลักการนี้ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินธุรกิจอีคอมเมิร์ซให้ประสบความสำเร็จ ดังนั้นทุกๆ คนที่กำลังดำเนินธุรกิจอีคอมเมิร์ซหรือว่ากำลังวางแผนที่จะทำธุรกิจนี้ก็คงจะต้องศึกษาและเตรียมตัวให้ดีเพื่อจะได้ดำเนินธุรกิจอีคอมเมิร์ซอย่างสะดวก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น